คนจีนไม่ใช้เงินสดกันแล้วหรอ
ประเทศจีนได้กลายเป็นหนึ่งในสังคมไร้เงินสดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลของธนาคารกลางจีน (People’s Bank of China) การชำระเงินดิจิทัลในประเทศจีนเติบโตขึ้นอย่างมาก และมีตัวเลขที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี
การเปลี่ยนแปลงสู่สังคมไร้เงินสด
ในปี 2004 Alipay ผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์จากกลุ่ม Alibaba ได้มีการเปิดตัวเพื่อให้บริการในตลาดอีคอมเมิร์ซของจีน ตามมาด้วย WeChat Pay จาก Tencent ในปี 2013 ที่เพิ่มฟังก์ชั่นการชำระเงินลงในแอพพลิเคชันและโซเชียลมีเดีย บวกกับเทคโนโลยี QR Code ที่เป็นจุดเปลี่ยนของการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้โลกของการจ่ายเงินสะดวกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อตั๋วรถไฟ การเช่าจักรยาน ซื้อของที่ตลาด หรือแม้กระทั้งการจ่ายค่าเทอม ทุกอย่างสามารถทำได้ในแอปพลิเคชั่นเดียว
เทคโนโลยีต่างๆที่ช่วยให้สังคมไร้เงินสดเกิดขึ้น
- Alipay และ WeChat Pay: ทั้งสองแอปพลิเคชันเป็นหัวใจหลักของการชำระเงินดิจิทัลในประเทศจีน โดยมีผู้ใช้รวมกันมากกว่า 1 พันล้านบัญชี
- QR Codes: ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1994 ที่ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบัน QR code ทำให้การทำธุรกรรมสะดวกสบายและรวดเร็ว โดยผู้ขายและผู้ซื้อสามารถสร้างและสแกน QR Codes เพื่อทำการชำระเงินได้ทันที
- การยืนยันตัวตน: นวัตกรรมเช่นการสแกนใบหน้าและลายนิ้วมือช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการชำระเงินดิจิทัล และป้องกันการโจรกรรมจากแฮกเกอร์
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสังคมไร้เงินสด
ข้อดีของการเปลี่ยนเป็นสังคมไร้เงินสด:
- ความสะดวกสบาย: การชำระเงินดิจิทัลช่วยลดเวลาและความซับซ้อนในการทำธุรกรรม
- ประหยัดต้นทุน: ลดต้นทุนการผลิตและการจัดการเงินสด
- การเข้าถึงบริการทางการเงิน: ช่วยให้ผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น
ข้อเสียของการเปลี่ยนเป็นสังคมไร้เงินสด:
- ความเป็นส่วนตัว: บางคนอาจมีความกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและประวัติการใช้จ่าย
- ความเหลื่อมล้ำ: ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนหรือไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
- ความปลอดภัย: เมื่อใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในชีวิตประจำวัน ก็จะมีผู้ไม่ประสงค์ดีเกิดขึ้น และได้ใช้กลอุบายใหม่ๆในการโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ต้องมีการวางแผนป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ที่ไม่คุ้นเคย
แนวโน้มในอนาคตของสังคมไร้เงินสด
ปี 2024 คาดว่าจะเป็นปีที่สำคัญสำหรับการเติบโตและการปฏิวัติของสังคมไร้เงินสดในประเทศจีน ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ และการขยายขอบเขตการใช้งานในทุกมิติของชีวิตประจำวัน ต่อไปนี้คือแนวโน้มหลักที่คาดว่าจะเห็นในปี 2024:
- การเปิดตัวเงินสกุลดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC): ธนาคารกลางจีน (People’s Bank of China) คาดการณ์ว่าการใช้งาน Digital Currency Electronic Payment (DCEP) เงินสกุลดิจิทัลของธนาคารกลาง จะขยายไปยังระบบการชำระเงินในระดับประเทศโดยสมบูรณ์ภายในปี 2024 โดย DCEP ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมความเป็นมาตรฐานใหม่ในการชำระเงินดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังสร้างระบบการเงินที่มีความปลอดภัยและเสถียรภาพมากขึ้นอีกด้วย
- การยกระดับความปลอดภัยในการชำระเงิน: ด้วยความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลและการฉ้อโกงการชำระเงิน คาดว่าในปี 2024 จะมีการใช้งานเทคโนโลยีที่เสริมความปลอดภัยของการชำระเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้น เช่น การใช้ blockchain ในการตรวจสอบและบันทึกธุรกรรมที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง นอกจากนี้ การยืนยันตัวตนด้วย AI และการเทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูลอาจมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์
- การขยายการเข้าถึงบริการทางการเงิน: การพัฒนาเทคโนโลยีการชำระเงินดิจิทัลในปี 2024 จะช่วยให้ผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและกลุ่มที่ไม่มีบัญชีธนาคารมีโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีการเข้าถึงการศึกษาทางการเงินและเครื่องมือการเงินที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนในสังคม
- นวัตกรรม FinTech และการบูรณาการเข้ากับ AI และ IoT: ปี 2024 จะเห็นการบูรณาการระหว่าง FinTech กับเทคโนโลยี AI และ IoT เพื่อสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่เรียบง่ายและทันสมัยมากขึ้น การใช้ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายต่างๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่