รีวิว Astrill VPN ยังน่าใช้มั้ยในปี 2024
ถ้าใครที่เคยใช้ VPN ก็คงต้องเคยได้ยินชื่อ VPN เจ้าใหญ่อย่าง Astrill VPN อย่างแน่นอน ถือเป็นผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงมากๆ ในอุตสาหกรรม VPN แต่ในโลกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างไม่หยุดหย่อน Astrill VPN จะยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเราอยู่หรือเปล่า? ในบทความนี้เราจะพามาพิจารณาทุกมุมมองของ Astrill VPN ตั้งแต่เรื่องความปลอดภัยจนถึงประสิทธิภาพและการดูแลลูกค้าหลังการขาย เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจว่ามันคือ VPN ที่ตามหาหรือไม่
ความปลอดภัย
Astrill VPN ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย ด้วยการเข้ารหัสข้อมูลระดับ 256-bit SSL ที่เป็นมาตรฐานสูงสุดในวงการ VPN แถมยังมีฟีเจอร์ Kill Switch ที่จะช่วยตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทันทีหาก VPN มีปัญหา เพื่อหยุดไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหลุดออกไปอีกด้วย สบายใจเรื่องความปลอดภัยได้เลย
ความเร็วและประสิทธิภาพ
ใครๆ ก็รู้ว่าความเร็วสำคัญสุดๆ สำหรับการใช้งาน VPN ยิ่งการใช้งานในประเทศจีนที่ถูกตัดขาดจากอินเตอร์ภายนอก จากทดสอบพบว่า Astrill VPN มีความเร็วที่ลดลงบ้างเมื่อเทียบกับบริการอื่น แต่ก็ยังคงมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมในการเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกบล็อกและมีเซิร์ฟเวอร์คุณภาพสูง สามารถ video call หรือนั่งดู Netflix ได้อย่างไม่มีปัญหาเลย
เซิร์ฟเวอร์และตำแหน่งที่มีให้บริการ
Astrill VPN เค้าจัดเต็มด้วยเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 110 ประเทศ เยอะสะใจมาก! ให้ความหลากหลายและเสรีภาพในการเชื่อมต่อสุดๆ สำคัญมากสำหรับคนที่อยากเข้าถึงเนื้อหาจากทั่วโลกหรือหลีกเลี่ยงการบล็อกของแต่ละประเทศ
การดูแลหลังการขาย
บริการลูกค้าของ Astrill VPN มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมตลอด 24 ชั่วโมง สามารถคุยกับแอดมินผ่านอีเมลหรือแชทคุยเลยก็ได้ แต่ยังต้องใช้ภาษาอังกฤษตอนคุยน้าา สำหรับคนไหนที่อยากคุยกับทีมงานเป็นภาษาไทย ต้องไป BullVPN เลย ทีมงานพี่วัวเป็นคนไทย แชทคุยภาษาไทยได้เล้ยย!!
การเข้าถึงในประเทศจีน
สำหรับคนที่มาเรียนหรือมาทำงานที่ประเทศจีน VPN เป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลย จะดูหลังดูซีรี่ย์ในแอปจีน ก็ไม่สะใจเหมือนเปิด Netflix ดู นักศึกษาที่นี้เลยต้องเปิดใช้ VPN กันอยู่เกือบตลอดเวลาเลย และ Astrill VPN ก็เป็นตัวที่นักศีกษาและคนทำงานที่นี่ใช้กันเยอะมากกๆๆๆๆ สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวมาประเทศจีน ก็โหลด Astrill VPN ติดเครื่องไว้ได้เลย
ข้อเสีย
แม้ว่าตัว Astrill VPN จะโด่งดังมาก แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่นะ
- มีเซิฟเวอร์เยอะเกิน จนบางครั้งเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเชื่อมต่อเซิฟเวอร์ไหน
- ถ้าคนที่ไม่มีพื้นฐานเรื่องไอทีเลยอาจจะงงเวลาต้องเลือกใช้งาน protocol ได้
- ดีจริง เซิฟเวอร์เยอะจริง แต่ราคาก็แรงเหมือนกัน แต่ยังดีที่ 1 user สามารถใช้พร้อมกันได้ถึง 5 devices ทำให้เราซื้อกับ User ก็สามารถไปแชร์กับเพื่อนๆได้