สอบภาษาฝรั่งเศส เตรียมสอบ DELF/DALF เรียนฝรั่งเศส

หัดทำข้อสอบได้ที่นี่

รู้จักการสอบภาษาฝรั่งเศส DELF/DALF และ TCF

การสอบวัดระดับภาษาฝรั่งเศสที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกมีอยู่หลายประเภท สำหรับผู้เรียนภาษาฝรั่งเศสที่ต้องการ สอบภาษาฝรั่งเศส เพื่อวัดระดับความสามารถของตนเองหรือใช้ผลสอบในการเรียนต่อฝรั่งเศส ทำงาน หรือวัตถุประสงค์อื่น ๆ การสอบที่นิยมและได้มาตรฐานมากที่สุดคือ DELF/DALF และ TCF โดยข้อสอบทั้งสองรูปแบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อประเมินทักษะภาษาฝรั่งเศสทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน ตามมาตรฐานกรอบยุโรป CEFR (ระดับ A1 ถึง C2) แม้ว่าทั้ง DELF/DALF และ TCF จะสามารถใช้เป็นหลักฐานแสดงความรู้ภาษาฝรั่งเศสในการเรียนต่อ สมัครงาน หรือยื่นวีซ่าได้เหมือนกัน แต่สองการสอบนี้ก็มีความแตกต่างกันในด้านรูปแบบการสอบและอายุของผลสอบอยู่พอสมควรเลย

DELF/DALF คืออะไร?

DELF (Diplôme d’Études en Langue Française) และ DALF (Diplôme Approfondi de Langue Française) เป็นการสอบวัดระดับภาษาฝรั่งเศสสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ โดยออกข้อสอบและมอบประกาศนียบัตรโดยกระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส​ การสอบ DELF ครอบคลุมระดับตั้งแต่ A1, A2, B1, B2 (ตั้งแต่ระดับพื้นฐานถึงระดับกลาง)

ส่วน DALF ครอบคลุมระดับสูง C1 และ C2​ ผู้สมัครสอบต้องเลือกระดับที่จะสอบตามความสามารถของตนเอง ถ้าสอบผ่านเกณฑ์ (ได้คะแนนอย่างน้อย 50 จาก 100) ก็จะได้รับใบประกาศนียบัตรสำหรับระดับนั้นเป็นการเฉพาะ โดยประกาศนียบัตร DELF/DALF ไม่มีวันหมดอายุ สามารถใช้เป็นหลักฐานแสดงความสามารถทางภาษาฝรั่งเศสได้ตลอดชีวิต​

  • ทักษะที่ทดสอบ: ข้อสอบแต่ละระดับประกอบด้วยการฟัง, การพูด, การอ่าน และการเขียน ครบทั้ง 4 ทักษะ เพื่อประเมินความสามารถภาษาฝรั่งเศสอย่างรอบด้านในสถานการณ์ที่เหมาะสมตามระดับนั้น​

  • เกณฑ์การผ่าน: คะแนนเต็ม 100 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 50 คะแนนจึงจะถือว่าผ่านและได้รับประกาศนียบัตรระดับนั้น​

  • ช่วงวัยผู้สอบ: ทุกคนที่สนใจอายุ 6 ปีขึ้นไปสามารถสมัครสอบได้ (มีรูปแบบข้อสอบเฉพาะสำหรับเด็กและวัยรุ่น เช่น DELF Prim และ DELF Junior) แต่ DELF/DALF รุ่นทั่วไป (tout public) เป็นที่นิยมสำหรับนักเรียนและผู้ใหญ่

  • การนำผลสอบไปใช้: ผลสอบ DELF/DALF เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ผู้สอบสามารถใช้ประกาศนียบัตรนี้ในการยื่นสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยในฝรั่งเศส ใช้สมัครงานที่ต้องการทักษะภาษาฝรั่งเศส หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัวอื่น ๆ ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องหมดอายุของผลสอบเลย ไม่เหมือนบางภาษาที่ผลสอบมีอายุจำกัด

TCF คืออะไร?

TCF (Test de connaissance du français) คือการสอบวัดระดับความรู้ภาษาฝรั่งเศสที่มีมาตรฐานระดับสากลอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งจัดทำโดยหน่วยงานรัฐบาลฝรั่งเศส มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความสามารถทางภาษาของผู้สอบใน ทุกระดับ (A1 ถึง C2) ผ่านการสอบเพียงครั้งเดียว โดยรูปแบบข้อสอบ TCF จะเป็นแบบปรนัย (multiple choice) เป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วยข้อสอบฟัง อ่าน และโครงสร้างภาษาที่ผู้สอบทุกคนต้องทำ และมีส่วนพูดกับเขียนเพิ่มเติมในบางกรณี เมื่อสอบเสร็จ ผู้สอบจะได้รับใบรับรองที่ระบุคะแนนและระดับภาษาฝรั่งเศสของตนเอง (เช่น A2, B1, B2 เป็นต้น) แต่จะไม่ได้ประกาศนียบัตรรายระดับเหมือน DELF​ ผลสอบ TCF มีอายุใช้งาน 2 ปี นับจากวันที่สอบ หลังจากนั้นหากต้องการหลักฐานแสดงระดับภาษาฝรั่งเศสอีกจะต้องสอบใหม่​

  • ประเภทของ TCF: การสอบ TCF มีหลากหลายประเภทให้เลือกตามวัตถุประสงค์ของผู้สอบ เช่น TCF Tout Public (สำหรับบุคคลทั่วไป), TCF DAP (สำหรับยื่นเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในฝรั่งเศส), TCF ANF (สำหรับผู้ยื่นขอสัญชาติฝรั่งเศส), TCF Canada (สำหรับผู้อพยพไปประเทศแคนาดา), TCF Québec (สำหรับผู้ย้ายถิ่นฐานไปยังรัฐควิเบก) เป็นต้น​ แต่ละประเภทจะมีข้อสอบเพิ่มเติมหรือเงื่อนไขแตกต่างกันไปตามความต้องการ (เช่น TCF เพื่อเรียนต่อ (DAP) จะบังคับสอบการเขียนเพิ่มเติม เป็นต้น)

  • การให้คะแนน: คะแนนในข้อสอบ TCF จะอยู่ในช่วง 100 – 699 คะแนน ซึ่งแบ่งระดับออกเป็น 6 ระดับตาม CEFR: A1, A2, B1, B2, C1, C2 โดยในใบรายงานผลสอบจะแจ้งระดับที่ผู้สอบทำได้พร้อมคำอธิบายความสามารถในระดับนั้น ๆ​

  • รูปแบบการสอบ: ส่วนการฟัง, การอ่าน และโครงสร้างภาษา (ไวยากรณ์) เป็นข้อสอบแบบปรนัยที่ผู้สอบทุกคนต้องทำ ส่วน การพูดและการเขียน เป็นส่วนเพิ่มเติม (optional) ซึ่งบางประเภทของ TCF จะกำหนดให้สอบ (เช่น TCF สำหรับวีซ่าหรือสัญชาติ) ในขณะที่ TCF แบบทั่วไปผู้สอบจะเลือกสอบเพิ่มหรือไม่ก็ได้​

  • การนำผลสอบไปใช้: ใบรับรองผลสอบ TCF ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเช่นเดียวกับ DELF/DALF โดยเหมาะกับกรณีที่ต้องการผลสอบที่ออก ล่าสุด (อายุไม่เกิน 2 ปี) เพื่อใช้ยื่นสมัครเรียนต่อหลักสูตรภาษาฝรั่งเศส ยื่นขอวีซ่าหรือสัญชาติ หรือนำไปประกอบเรซูเม่สมัครงาน เป็นต้น

สอบภาษาฝรั่งเศส เตรียมสอบ DELF/DALF เรียนฝรั่งเศส

เปรียบเทียบ DELF/DALF กับ TCF – เลือกสอบแบบไหนดี?

แม้ว่าการสอบ DELF/DALF และ TCF จะมีจุดประสงค์คล้ายกันในการวัดระดับภาษาฝรั่งเศส และทั้งสองแบบสามารถใช้เป็นหลักฐานสมัครเรียนหรือทำงานได้ทั้งคู่ แต่ก็มีข้อแตกต่างที่สำคัญหลายประการเลย:

  • รูปแบบการสอบ: DELF/DALF เป็นการสอบแบบแยกระดับ ผู้สอบต้องเลือกสอบตามระดับความสามารถของตน (A1, A2, … C2) โดยข้อสอบจะเป็นการตอบคำถามแบบอัตนัย (เขียนตอบและพูดโต้ตอบตามโจทย์ที่กำหนด) เป็นหลัก; ขณะที่ TCF เป็นการสอบรวมทุกระดับในชุดเดียว เน้นข้อสอบแบบปรนัย (เลือกตอบ) และประเมินว่าคะแนนของผู้สอบอยู่ในระดับใดหลังสอบเสร็จ (ไม่ต้องเลือกระดับก่อนสอบ)

  • ผลสอบและอายุการใช้งาน: ผลสอบ DELF/DALF ที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองระดับภาษาฝรั่งเศส (เช่น B1, B2) ซึ่งไม่มีวันหมดอายุ ใช้ได้ตลอดชีวิต ส่วนผลสอบ TCF จะเป็นใบรายงานระดับภาษา (attestation) ที่แสดงระดับที่สอบได้ (เช่น B1 หรือ B2) และมีอายุใช้งานเพียง 2 ปี เท่านั้น​

  • การสอบผ่าน/ไม่ผ่าน: การสอบ DELF/DALF มีเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำในการสอบผ่าน (50/100) หากสอบไม่ผ่าน ผู้สอบจะไม่ได้ประกาศนียบัตรในระดับนั้นและต้องสอบใหม่อีกครั้ง ในทางกลับกัน TCF ไม่มีการสอบ “ตก” เพราะผู้สอบทุกคนจะได้รับผลระดับใดระดับหนึ่งเสมอ (เพียงแต่ถ้าได้ระดับต่ำกว่าที่ต้องการ ก็อาจต้องสอบใหม่เพื่อให้ได้ระดับที่สูงขึ้น)

  • ความเหมาะสมในการใช้งาน: ถ้าต้องการผลสอบที่มี อายุการใช้งานนาน หรือเป็นหลักฐานถาวร การสอบ DELF/DALF จะเหมาะกว่า เพราะสอบครั้งเดียวผ่านแล้วใช้ผลได้ตลอด ในขณะที่ TCF เหมาะกับกรณีที่ต้องการ ผลสอบล่าสุด เพื่อยื่นตามข้อกำหนด (เช่น มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจระบุให้ยื่นผลสอบที่อายุไม่เกิน 1-2 ปี)​ นอกจากนี้ หากเป้าหมายของคุณเฉพาะเจาะจง เช่น การยื่นขอวีซ่าหรือสัญชาติฝรั่งเศส TCF แบบเฉพาะทาง (เช่น TCF ANF ที่ใช้สำหรับการขอสัญชาติ) อาจจำเป็นต้องใช้ตามเงื่อนไขของหน่วยงานนั้น ๆ ในขณะที่ DELF/DALF ระดับที่เหมาะสม (เช่น B1 สำหรับการขอสัญชาติ) ก็สามารถใช้ทดแทนได้ในบางกรณี

  • ช่วงเวลาการสอบและผลสอบ: การสอบ DELF/DALF มักจัดเป็นรอบไม่กี่ครั้งต่อปีและใช้เวลารอผลสอบไม่กี่สัปดาห์หลังสอบ ส่วนการสอบ TCF บางประเภท (เช่น TCF แบบคอมพิวเตอร์) อาจมีการจัดสอบบ่อยครั้งกว่า และผู้สอบสามารถทราบผลคะแนนเบื้องต้นได้ทันทีหลังสอบเสร็จ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองแบบสามารถสมัครสอบได้ที่ศูนย์สอบที่ได้รับอนุญาต (เช่น Alliance Française) จึงควรวางแผนล่วงหน้าให้สอดคล้องกับกำหนดการยื่นสมัครของคุณ

สอบผ่านแล้ว ทำอะไรต่อดี

ผลสอบ DELF/DALF และ TCF สามารถใช้เป็นหลักฐานแสดงทักษะภาษาฝรั่งเศสในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้หลายอย่างเลย:

  • เรียนต่อประเทศฝรั่งเศส: มหาวิทยาลัยในฝรั่งเศสมักต้องการผู้สมัครที่มีความรู้ภาษาฝรั่งเศสระดับ B2 ขึ้นไป ทั้งนี้ผู้สมัครสามารถยื่นได้ทั้งประกาศนียบัตร DELF B2 หรือผลสอบ TCF ที่เทียบเท่าระดับ B2 ตามที่สถาบันการศึกษากำหนด สำหรับหลักสูตรที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสขั้นสูง (เช่น ระดับปริญญาโทขึ้นไป) อาจต้องการระดับ C1 (DALF C1) ขึ้นไป จึงควรตรวจสอบข้อกำหนดของมหาวิทยาลัยที่สมัครว่ารับผลสอบประเภทใดบ้าง และผลสอบต้องมีอายุไม่เกินกี่ปี

  • ทุนการศึกษา: การยื่นสมัครทุนเรียนต่อมักต้องส่งหลักฐานความสามารถทางภาษา ผลสอบ DELF/DALF ถือเป็นหลักฐานที่แข็งแกร่งในการสมัครทุนต่าง ๆ และผลสอบ TCF ที่แสดงระดับสูงก็สามารถใช้ประกอบการพิจารณาได้เช่นกัน (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละโครงการทุน)

  • สมัครงาน: ในการสมัครงาน โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ทักษะภาษาฝรั่งเศส เช่น บริษัทฝรั่งเศสหรือองค์กรระหว่างประเทศ การมีประกาศนียบัตรภาษาฝรั่งเศสจะช่วยยืนยันความสามารถของน้องๆได้เป็นอย่างดี สำหรับสายงานวิชาการหรืองานสอนภาษา การมีวุฒิระดับสูงอย่าง DALF C1 หรือ C2 จะยิ่งเพิ่มโอกาสและความน่าเชื่อถือในการสมัครงานอย่างมาก

  • วีซ่าและการย้ายถิ่นฐาน: ในการยื่นขอวีซ่าบางประเภทหรือการขอสิทธิพำนัก/สัญชาติในต่างประเทศ อาจกำหนดให้ยื่นผลสอบภาษาฝรั่งเศสประกอบ เช่น การขอสัญชาติฝรั่งเศส ปัจจุบันกำหนดให้มีระดับภาษาไม่น้อยกว่า B1 ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ด้วย DELF B1 หรือผลสอบ TCF (ประเภท ANF/IRN) นอกจากนี้ การย้ายถิ่นฐานไปควิเบกหรือแคนาดา อาจต้องยื่นผลสอบภาษาฝรั่งเศสตามที่กำหนด (เช่น TCF หรือ TEF เวอร์ชันที่รับรองโดยหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง) ดังนั้นหากมีแผนด้านวีซ่าหรือย้ายประเทศ ควรตรวจสอบล่วงหน้าว่าต้องใช้ผลสอบชนิดใดและระดับใดเป็นพิเศษ

pexels imagestudio 1488315

ระดับความสามารถทางภาษาฝรั่งเศส A1 – C2 (CEFR)

กรอบมาตรฐาน CEFR (Common European Framework of Reference for Languages) แบ่งระดับความสามารถทางภาษาออกเป็น 6 ระดับ ได้แก่ A1, A2, B1, B2, C1 และ C2 แต่ละระดับมีคำอธิบายถึงความสามารถโดยคร่าว ๆ ของผู้ใช้ภาษา ตารางด้านล่างสรุปทักษะที่ผู้เรียนสามารถทำได้ในแต่ละระดับ พร้อมทั้งตัวอย่างข้อสอบวัดระดับภาษาฝรั่งเศสที่ใช้ยืนยันระดับนั้น (เช่น ผู้ที่สอบผ่าน DELF B2 หรือได้ผลสอบ TCF อยู่ในระดับ B2 ก็ถือว่ามีทักษะภาษาฝรั่งเศสระดับ B2)​

ระดับ (CEFR)ความสามารถโดยย่อ
A1เข้าใจ-ใช้ประโยคง่าย ๆ สื่อสารพื้นฐานในชีวิตประจำวัน
A2สนทนาและเข้าใจเรื่องใกล้ตัว เช่น ข้อมูลส่วนตัว, เดินทาง, ซื้อของ
B1จัดการสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน พูด-เขียนอธิบายความคิดเห็นทั่วไปได้
B2เข้าใจเนื้อหาซับซ้อนพอสมควร สื่อสารโต้ตอบคล่อง แสดงความเห็นได้ชัดเจน
C1อ่าน-ฟังงานวิชาการได้ลึก พูด-เขียนเป็นระบบ ใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
C2เข้าใจทุกอย่างคล่องแคล่ว ใกล้เคียงเจ้าของภาษา สื่อสารได้ทุกบริบท