รวมไฟล์ข้อสอบ TOPIK 1 และ TOPIK 2 พร้อมเฉลย ไฟล์ PDF เรียนภาษาเกาหลี เตรียมสอบเกาหลี

TOPIK คืออะไร? รู้จักข้อสอบวัดระดับภาษาเกาหลี

TOPIK (Test of Proficiency in Korean) คือชื่อของ ข้อสอบวัดระดับภาษาเกาหลี สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาเกาหลีเป็นภาษาแม่หรือชาวต่างชาติ โดยจัดสอบขึ้นเพื่อประเมินทักษะการใช้ภาษาเกาหลีของผู้สอบ​ ข้อสอบ TOPIK จัดทำโดยสถาบันการศึกษานานาชาติแห่งชาติของรัฐบาลเกาหลีใต้ (National Institute for International Education – NIIED) ภายใต้กระทรวงศึกษาธิการเกาหลีใต้​ หากคุณกำลังเรียนภาษาเกาหลีหรืออยากสอบวัดระดับทักษะของตัวเอง ข้อสอบ TOPIK ก็คือสนามทดสอบมาตรฐานที่จะช่วยวัดระดับความรู้ภาษาเกาหลีของคุณได้เป็นอย่างดี

ประเภทของข้อสอบ TOPIK: TOPIK I และ TOPIK II

การสอบ TOPIK แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ TOPIK I และ TOPIK II โดยทั้งสองแบบมีระดับความยากต่างกันและครอบคลุมระดับความสามารถทางภาษาคนละช่วง​

  • TOPIK I (ระดับ 1–2) – เป็นข้อสอบภาษาเกาหลีระดับพื้นฐาน เหมาะสำหรับผู้เริ่มเรียนหรือต้องการวัดทักษะขั้นต้น ในการสอบ TOPIK I จะมีการทดสอบ 2 ทักษะ คือ การฟัง และ การอ่าน (ไม่มีพาร์ทเขียน) รวมเวลาสอบประมาณ 100 นาที โดยแบ่งเป็นการฟัง ~40 นาที (ประมาณ 30 ข้อ) และการอ่าน ~60 นาที (ประมาณ 40 ข้อ)​ ข้อสอบทั้งหมดเป็นแบบปรนัย (เลือกตอบ) ทำคะแนนรวม เต็ม 200 คะแนน

  • TOPIK II (ระดับ 3–6) – เป็นข้อสอบภาษาเกาหลีระดับกลางถึงขั้นสูง สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานดีหรือใช้งานภาษาได้คล่องขึ้น การสอบ TOPIK II จะมี 3 ทักษะ ได้แก่ การฟัง, การเขียน และการอ่าน รวมเวลาสอบประมาณ 180 นาที โดยการฟัง ~60 นาที (50 ข้อเลือกตอบ), การเขียน ~50 นาที (ข้อสอบเขียน 4 ข้อ) และการอ่าน ~70 นาที (50 ข้อเลือกตอบ)​ ข้อสอบ TOPIK II มีความยากมากขึ้น และคะแนนรวม เต็ม 300 คะแนน เนื่องจากเพิ่มพาร์ทการเขียนเข้ามา

 

ระดับคะแนนและผลสอบ TOPIK

ผลสอบ TOPIK ถูกแบ่งออกเป็น 6 ระดับ (ระดับ 1 ถึง 6) ซึ่งบ่งบอกความสามารถทางภาษาเกาหลีของผู้สอบ โดยระดับ 1 คือขั้นต้นที่สุดและระดับ 6 คือสูงสุด แต่ละระดับจะพิจารณาจาก คะแนนสอบ ที่ผู้สอบทำได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด หากคะแนนไม่ถึงระดับต่ำสุดก็จะถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์ (ไม่ได้รับระดับใดเลย) ในการสอบนั้นๆ

  • คะแนนเต็ม: TOPIK I คะแนนเต็ม 200 คะแนน, TOPIK II คะแนนเต็ม 300 คะแนน ผู้สอบสามารถเลือกสมัครสอบเฉพาะ TOPIK I หรือ TOPIK II ตามระดับที่เหมาะสมกับตนเอง

  • เกณฑ์คะแนนแต่ละระดับ: สำหรับ TOPIK I – ได้ 80–139 คะแนน จะได้รับ ระดับ 1, และ 140–200 คะแนน จะได้ ระดับ 2​ ส่วน TOPIK II – ได้ 120–149 คะแนน = ระดับ 3, 150–189 คะแนน = ระดับ 4, 190–229 คะแนน = ระดับ 5, และ 230–300 คะแนน = ระดับ 6​ (ดูตารางสรุประดับคะแนนด้านล่าง)

 

ระดับคะแนนระดับที่ได้เต็ม
TOPIK I0 – 79❌ ไม่ผ่าน200
 80 – 139✅ระดับ 1200
 140 – 200✅ระดับ 2200
TOPIK II0 – 119❌ไม่ผ่าน300
 120 – 149✅ระดับ 3300
 150 – 189✅ระดับ 4300
 190 – 229✅ระดับ 5300
 230 – 300✅ระดับ 6300

ระดับความสามารถแต่ละระดับ

เมื่อทราบคะแนนและระดับที่ได้แล้ว เราสามารถตีความคร่าวๆ ได้ว่าผู้สอบมีความสามารถภาษาเกาหลีในระดับใดบ้างตามมาตรฐาน TOPIK​

  1. ระดับ 1 (TOPIK I ระดับ 1): สามารถเข้าใจและใช้ประโยคพื้นฐานง่ายๆ ในชีวิตประจำวันได้ เช่น การทักทาย, การซื้อของในร้านค้า หรือการสื่อสารเบื้องต้นเกี่ยวกับตนเอง. เหมาะสำหรับผู้เรียนที่เพิ่งเริ่มต้นและรู้ศัพท์พื้นฐานเพียงเล็กน้อย

  2. ระดับ 2 (TOPIK I ระดับ 2): สามารถ สนทนาในหัวข้อที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวันได้ เช่น การโทรศัพท์ถามทาง, การขอความช่วยเหลือ และพอจะปรับใช้ภาษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการ (สุภาพ) และไม่ทางการได้

  3. ระดับ 3 (TOPIK II ระดับ 3): สามารถ พูดคุยโต้ตอบในที่สาธารณะหรือสถานที่ทำงานทั่วไปได้ เข้าใจบทสนทนาที่เจ้าของภาษาเกาหลีใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงสามารถจับใจความเรื่องที่ฟังหรืออ่านได้ในระดับปานกลาง

  4. ระดับ 4 (TOPIK II ระดับ 4): สามารถ อ่านเข้าใจบทความ ข่าวสาร หรือเนื้อหาทางสังคมที่ซับซ้อนขึ้นได้อย่างถูกต้อง รวมถึงเข้าใจสำนวนหรือวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องในบริบทภาษาเกาหลีได้ดี

  5. ระดับ 5 (TOPIK II ระดับ 5): สามารถ สื่อสารภาษาเกาหลีได้อย่างคล่องแคล่วในแทบทุกสถานการณ์ ทั้งการพูดคุยทั่วไปและสถานการณ์ทางการ เข้าใจทั้ง ภาษาพูดและภาษาเขียน ได้อย่างถูกต้องในหัวข้อที่หลากหลาย

  6. ระดับ 6 (TOPIK II ระดับ 6): สามารถใช้ภาษาเกาหลีได้อย่างคล่องแคล่ว ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา สามารถใช้ภาษาเชิงวิชาการหรือวิชาชีพได้ถูกต้อง เข้าใจเนื้อหาระดับสูงหรือศัพท์เทคนิคยากๆ ได้เป็นอย่างดี (ถือเป็นระดับสูงสุดของข้อสอบ TOPIK)

การสมัครสอบ TOPIK และข้อมูลการสอบ

การจัดสอบ: ข้อสอบ TOPIK จัดขึ้นทั้งในประเทศเกาหลีใต้และอีกหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย​ ในแต่ละปีจะมีการจัดสอบหลายรอบ (ในเกาหลีมีประมาณ 4–6 รอบต่อปี ส่วนในประเทศไทยมักจัดประมาณ 2–3 ครั้งต่อปี แล้วแต่กำหนดการของแต่ละปี) ผู้สนใจสามารถติดตามประกาศตารางสอบและช่วงเวลารับสมัครได้จากหน่วยงานผู้จัดสอบในประเทศของตน เช่น ในประเทศไทยจะประกาศผ่านศูนย์การศึกษาภาษาเกาหลีหรือเว็บไซต์ลงทะเบียนสอบ TOPIK ของไทยโดยเฉพาะ

สถานที่สอบ: สถานที่จัดสอบจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทย สนามสอบ มักจัดที่กรุงเทพฯ (เช่น มหาวิทยาลัยหรือสถาบันที่ร่วมกับสถานทูตเกาหลี) และในบางปีมีจัดตามหัวเมืองใหญ่ภูมิภาค เช่น เชียงใหม่, สงขลา, พิษณุโลก ฯลฯ​ เพื่อกระจายโอกาสให้ผู้สอบทั่วประเทศ. ผู้สมัครสามารถเลือกสนามสอบใกล้ตนเองตอนสมัครได้ตามตัวเลือกที่ประกาศในรอบนั้น

ค่าสมัครสอบ: ค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบจะแบ่งตามประเภทข้อสอบ ในประเทศไทยปัจจุบันค่าสมัครสอบ TOPIK I (ระดับ 1–2) อยู่ที่ประมาณ 900 บาท และ TOPIK II (ระดับ 3–6) อยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท ต่อครั้ง​ (ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามปีที่จัดสอบ). คะแนนสอบมีอายุ ใช้ได้ 2 ปี นับจากวันประกาศผลสอบ​ หลังจากนั้นถ้าต้องการนำคะแนนไปใช้ ควรสอบใหม่เพื่อให้ได้คะแนนที่ยังไม่หมดอายุ

ขั้นตอนสมัคร: การสมัครสอบ TOPIK ในไทยสามารถทำได้ผ่านระบบออนไลน์ โดยกรอกใบสมัครและชำระค่าสมัครผ่านเว็บไซต์ที่กำหนด (เช่น เว็บไซต์ลงทะเบียนสอบ TOPIK ของศูนย์การศึกษาเกาหลีประจำประเทศไทย). ช่วงเวลารับสมัครมักจะเปิดล่วงหน้าก่อนวันสอบประมาณ 2-3 เดือน และที่นั่งอาจมีจำนวนจำกัดในแต่ละสนามสอบ ผู้สนใจควรวางแผนสมัครล่วงหน้า และเตรียมเอกสาร (เช่น บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง) ให้พร้อมสำหรับใช้ลงทะเบียนและเข้าห้องสอบ

TOPIK นำไปใช้อะไรได้บ้าง?

คะแนนสอบภาษาเกาหลี TOPIK ที่ได้รับสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งในด้านการศึกษา การทำงาน และโอกาสอื่นๆ ดังนี้​

  • ยื่นเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาในเกาหลีใต้: มหาวิทยาลัยเกาหลีหลายแห่งกำหนดให้ผู้สมัครต่างชาติส่งผลสอบ TOPIK ประกอบการสมัคร โดยทั่วไปหลักสูตรปริญญาตรีหรือโทที่เรียนเป็นภาษาเกาหลีมักต้องการ TOPIK ระดับ 3 หรือ 4 ขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เรียนสามารถเข้าใจการเรียนการสอนที่เป็นภาษาเกาหลีได้

  • สมัครทุนการศึกษาต่างๆ: ไม่ว่าจะเป็น ทุนรัฐบาลเกาหลี (KGSP) หรือทุนมหาวิทยาลัย เกณฑ์หนึ่งที่พิจารณาคือคะแนน TOPIK หากมีคะแนนระดับสูงก็จะเพิ่มโอกาสได้รับทุนมากขึ้น เพราะแสดงถึงความพร้อมด้านภาษาของผู้สมัคร

  • สมัครงานในบริษัทหรือองค์กรที่ใช้ภาษาเกาหลี: ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเกาหลีที่มาลงทุนในไทย บริษัทไทยที่ติดต่อธุรกิจกับเกาหลี หรือการไปสมัครงานที่ประเทศเกาหลีเอง คะแนน TOPIK สามารถใช้เป็น หลักฐานยืนยันทักษะภาษาเกาหลี ของเราต่อฝ่าย HR ได้. หลายองค์กรให้ความสำคัญกับผู้ที่สื่อสารเกาหลีได้ และบางตำแหน่งอาจระบุคุณสมบัติว่าต้องมี TOPIK ระดับใดระดับหนึ่ง

  • วัดระดับและเพิ่มโอกาสในสายอาชีพอื่นๆ: สำหรับสายงานที่เกี่ยวข้องกับภาษาเกาหลีโดยตรง เช่น ล่าม, ครูสอนภาษาเกาหลี, มัคคุเทศก์, นักการทูต, แอร์โฮสเตส ฯลฯ การมีผลสอบ TOPIK ระดับสูงจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสความก้าวหน้าในสายอาชีพ. นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่เรียนภาษาเกาหลีเป็นงานอดิเรก การสอบ TOPIK ก็เป็น การท้าทายตนเอง และวัดผลการเรียนรู้ว่ามีพัฒนาการถึงระดับไหนแล้ว

 

 


 

สรุป: การสอบ TOPIK ถือเป็น ข้อสอบวัดระดับภาษาเกาหลี มาตรฐานที่ผู้เรียนภาษาเกาหลีทุกคนควรรู้จัก ไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในเกาหลี ขอทุนการศึกษา หางานในบริษัทเกาหลี หรือเพียงต้องการประเมินทักษะตัวเอง คะแนนสอบ TOPIK ก็เป็น ใบเบิกทางสำคัญ ที่ยืนยันความสามารถทางภาษาเกาหลีของคุณ. ด้วยการเตรียมตัวที่ดีและความมุ่งมั่น คุณเองก็สามารถคว้าคะแนนสูงๆ และพิชิตเป้าหมายทางภาษาเกาหลีที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน 🎉