
เนื่องจากประเทศจีนมีนโยบายการใช้ปิดกั้นการใช้งานของเว็ปไซด์และบริการจากบ้างบริษัท เช่น Google, Netflix, Meta(Facebook, IG) เป็นต้น เราจึงไม่สามารถใช้งานแอปบางตัวได้ ซึ่งก็เป็นปัญหาที่น้องๆ นักศึกษาต่างชาติหลายคนเจอ แต่เราแก้ไขปัญหานั้นได้ด้วยการใช้ VPN โดยหลังจากเปิดใช้งานแล้วเนี่ย ก็สามารถเล่นไลน์ ไอจี ดูยูทูปได้เหมือนอยู่ที่ไทยเลย เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงว่าไปจีนแล้วจะคุยไลน์กับพ่อแม่ไม่ได้ หรือจะดู Netflix ไม่ได้ เดี๋ยวพี่ๆ ทีมงานจะพาไปดูว่า VPN คืออะไร และมีของเจ้าไหนมาแนะนำบ้าง
VPN คืออะไร?
VPN ย่อมาจาก Virtual Private Network ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยมีการเข้ารหัสข้อมูลของตนเอง เพื่อป้องกันการถูกตรวจจับ พูดง่ายๆ ว่าเหมือนมุดอุโมงออกมาจากอินเตอร์เน็ตประเทศจีนนั้นเอง โดยถ้าเราเปิดใช้เซิฟเวอร์ของประเทศไทย อินเตอร์เน็ตก็จะเข้าใจว่าเราเข้าใช้งานจากประเทศไทย น้องๆ ก็จะรู้สึกเหมือนใช้อินเตอร์เน็ตที่ไทยเลย แต่ถ้าเราเปิดเซิฟเวอร์ของประเทศเกาหลีใต้ เวลาน้องๆ ค้นหาบางอย่างในอินเตอร์เน็ต มันก็จะแสดงผลลัพธ์ออกมาเหมือนที่คนเกาหลีใต้เห็นนั้นเอง

ข้อดีของการใช้ VPN
- ความเป็นส่วนตัว: VPN ช่วยเพิ่มระดับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เราส่ง-รับผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งทำให้ข้อมูลไม่ถูกดักจับหรือถูกขโมยได้ง่ายๆ
- ความปลอดภัย: การเข้ารหัสข้อมูลที่เผยแพร่ผ่าน VPN ทำให้ผู้ไม่พึงประสงค์ไม่สามารถอ่านหรือทำลายข้อมูลได้
- การเข้าถึงที่ถูกจำกัด: VPN ช่วยให้เราเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดโดยประเทศหรือบริษัท อย่างเช่นการดูสตรีมวิดีโอที่มีการจำกัดภูมิภาค
ข้อเสียของการใช้ VPN
- ความช้าในการเชื่อมต่อ: การใช้ VPN บางครั้งอาจทำให้การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตช้าลงเล็กน้อยเนื่องจากการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูล
- ค่าใช้จ่าย: บางบริการ VPN มีค่าใช้จ่าย แม้ว่าจะมีบริการฟรี แต่มักจะมีจำกัดในการใช้งานหรือประสิทธิภาพ
- ความซับซ้อน: สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านเทคนิค การตั้งค่า VPN อาจทำให้รู้สึกซับซ้อนได้
เลือกใช้ VPN ที่เหมาะสม
เมื่อต้องการเลือกใช้ VPN ควรพิจารณาดังนี้:
- ความเร็ว: ตรวจสอบความเร็วของบริการ VPN เพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งหมด
- นโยบายความเป็นส่วนตัว: ศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวของบริการ VPN เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการบันทึกข้อมูลของผู้ใช้
- ราคา: ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายของบริการ VPN โดยเทียบกับความต้องการและงบประมาณของตนเอง
- สถานที่เซิร์ฟเวอร์: เลือก VPN ที่มีเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ที่ต้องการเข้าถึงเนื้อหา
เลือก VPN ตัวไหนดี
โดยเจ้าตัว VPN เนี่ยก็มีหลายเจ้าที่ให้บริการ พี่ๆ ทีมงานก็จะมาแนะนำว่าเจ้าไหนน่าใช้บ้าง

Astrill VPN: เป็นVPNที่ได้รับความนิยมโดยช่วงต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่จีนมีประวัติการใช้งานที่ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องแม้บางช่วงที่ทางการจีนมีการป้องกันการใช้งานVPNเหมาะสำหรับน้องๆที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีใช้ง่ายง่าย แต่ราคาการบริการค่อนค้างสูง

Mullvad: เป็นบริการที่มีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นคือไม่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานสามารถขอรหัสสมาชิกแล้วใช้งานได้เลย ราคาคงที่ไม่ว่าจะต่อบริการรายเดือนหรือรายปีก็ราคาเพียง5ยูโร

ExpressVPN: ตัวนี้ความเร็วเป็นที่น่าพอใจ แถมมีเซิฟเวอร์ให้เลือกอย่างหลากหลายเลย 1 แอคเคาท์ใช้ได้ 3 devices และช่องทางการชำระเงินสะดวกมาก จ่ายด้วย Bitcoin ได้อีกด้วย แต่ราคาแอบสูงนิดนึงเมื่อเทียบกับเจ้าอื่น

LadderVPN: ใช้ดีมาก เสถียรมากสำหรับคนใช้ Iphone แต่สำหรับการใช้งานใน Android, Window อาจจะยังสู้ฝั่ง IOS ไม่ได้ และนอกจากความเร็วที่แรงสะใจแล้ว ราคาก็ยังไม่ได้สูงอีกด้วย 1 แอคเคาท์สามารถใช้งานได้ 3 devices

BullVPN: ใช้งานง่าย คนไทยใช้เยอะเนื่องจากมีเซิฟเวอร์เยอะมาก เซิฟเวอร์ที่ไทยก็มีนะ แล้วก็ทีมงาน support เป็นพี่ๆคนไทย ถ้ามีปัญหาอะไรสามารถคุยกับทีมงานเป็นภาษาไทยได้เลย แต่ข้อเสียคือบางทีอาจจะเจอปัญหาเรื่องความเร็วอินเตอร์เน็ตบ้าง

CyberGhost: สำหรับ vpn ตัวนี้ก็เป้นอีกทางเลือกนึงที่ดี มีเซิฟเวอร์ให้เลือกหลากหลาย แรงและเสถึยรพอที่จะเอาไว้ใช้ดู netflix ได้อย่างสบายๆ เลย แถมมาในราคาที่ไม่แรงเกินไป